รีวิวหนัง | TROLL (2022)
รีวิวหนัง | TROLL (2022)
TROLL โทรลล์
ประเภท : สัตว์ประหลาด / เหนือธรรมชาติ / แอ็คชั่นผจญภัย
นักแสดง : อีเนอ มารีเอ วิลมันน์, คิม ฟอล์ค, มาดส์ โชเกิร์ด เพทเตอร์สัน, การ์ด เบ. ไอด์สโวลด์
กำกับโดย : รูอาร์ อูเทาก์
เขียนบทโดย : รูอาร์ และ เอสเปน อาวคัน
ความยาว : 1 ชั่วโมง 43 นาที
“Troll” (โทรลล์) หนังมอนส์เตอร์จากนอร์เวย์ที่อาจน่าเบื่อไปบ้างแต่ก็ยังมีดีในหลายๆ ด้าน ดูได้ทาง Netflix [มีพากย์ไทย] Troll โทรลล์ สัตว์ประหลาดในตำนาน ภาพยนตร์จากนอร์เวย์ ผลงานของผู้กำกับคนเก่ง “รอร์ อูธัก” ที่เคยมีผลงานภาพยนตร์อย่าง Tomb Raider (2018) และ Wave (2015) เป็นแนวแอ็คชั่นผจญภัย สไตล์ King Kong จากฝั่งฮอลลีวู้ด และ Godzilla จากฝั่งญี่ปุ่น
เนื้อเรื่องย่อ TROLL
ภาพยนตร์เรื่องนี้จะติดตามเรื่องราวของ “Nora Tidemann” (รับบทโดย Ine Marie Wilmann) หญิงสาวที่เป็นนักธรณีวิทยาซึ่งทำหน้าที่ในการศึกษาฟอร์สซิลของสัตว์โบราณ เธอได้ถูกรัฐบาลเรียกตัวไปเพื่อศึกษาปรากฎการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นในหุบเขาของประเทศนอร์เวย์ เมื่อจู่ๆ เหตุระเบิดในหุบเขาได้ไปปลุก “โทรลล์” สัตว์ประหลาดในตำนานให้ตื่นขึ้นมา งานนี้เธอจึงต้องไปขอความช่วยเหลือจากพ่อของเธอ “Tobias Tidemann” (รับบทโดย Gard B. Eidsvold) ชายผู้หมกมุ่นอยู่กับการค้นหายักษ์โทรลล์มานานหลายปี
สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องบอกให้ทุกคนเข้าใจกันก่อนว่า ไม่ได้เป็นแนวไซไฟเทพนิยายเหมือนที่ใครหลายคนคิดไว้ เนื่องด้วยตัวยักษ์โทรลล์เป็นเรื่องเล่าในตำนาน พอคนเห็นหน้าหนังเลยอาจคิดว่าจะไปแนวนั้น (ตอนแรกผมก็คิดแบบนั้น) แต่กลับกลายเป็นว่าหนังเรื่องนี้เขาเลือกมาในแนวทางของหนังมอนส์เตอร์ อารมณ์แบบ Gozilla ประมาณนั้น คือมนุษย์ไม่สามารถสื่อสารหรือทำความเข้าใจกับสิ่งมีชีวิตนี้ได้ ทำได้แค่เพียงเฝ้าดูพฤติกรรมและคอยระงับป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายแรง ทั้งปมปัญหาของเรื่อง การดำเนินเรื่องต่างๆ คือมาในแนวหนังมอนส์เตอร์สูตรสำเร็จเลย เหมือนนั่งดู Gozilla ภาคแรกที่เปลี่ยนจากน้องก็อตพ่นลำแสงนิวเคลียร์กลายเป็นยักษ์หินที่กลัวแสงแดดแทน
ตัวเรื่องดำเนินแบบง่ายๆ เรื่อยๆ บทที่เขียนมาก็อยู่ในระดับกลางๆ ไม่ได้ถึงกับแย่แต่ก็ยังดีไม่พอที่จะทำให้คนดูรู้สึกอินไปกับเรื่องราว คืออธิบายง่ายๆ ว่าตอนดูจบก็รู้สึกเฉยๆ คือหนังแทบไม่ได้สร้างอารมณ์ร่วมอะไรให้คนดูเท่าไหร่เลย คือมันมาในโทนเดิมตลอดทั้งเรื่อง เรียบๆ เฉยๆ การดำเนินเรื่องก็ไม่ได้ถึงกับน่าเบื่อจนแย่นะ เพราะยังมีฉากยักษ์โทรลล์ออกมาให้เราเห็นเป็นช่วงๆ แทบตลอดทั้งเรื่อง แต่มันก็ไม่ได้น่าติดตามหรือน่าดึงดูดอะไรเป็นพิเศษ ทุกอย่างมันธรรมดาไปหมด ซึ่งบอกตามตรงว่าหากปรับบทให้ดีกว่านี้หรือสร้างเหตุการณ์ซักอย่างที่มันน่าติดตามมาเป็นพล็อตหลัก หนังเรื่องนี้คงจะเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมอีกเรื่องหนึ่งเลย เพราะนอกจากส่วนนี้แล้วส่วนอื่นๆ ล้วนทำได้ดีจนเกิดความคาดหมายไปด้วยซ้ำ
ผู้เขียนไม่ได้คาดหวังความแปลกใหม่ในหนังแนวนี้มานานและทุกครั้งที่ดูก็จะดูเพื่อความบันเทิงเป็นหลักเพราะเข้าใจข้อจำกัดของหนังแนวนี้ดี ซึ่งถ้าว่ากันที่ตัวหนังโดยรวมแม้ว่าหนังจะชัดเจนมาขายตัวเองเป็นหนังสัตว์ประหลาดรุกรานมนุษย์แต่ก็ยังมีบทภาพยนตร์ที่มีทิศทางทั้งเรื่องหลักและความหมายแฝงเรื่องของการพยายามเป็นเพราะเจ้าของมนุษย์ที่ไปทำลายล้างธรรมชาติ ด้วยความที่หนังชัดเจนที่จะขายจนกลายเป็นความซื่อตรงไม่มีอะไรหวือหวาแต่อย่างน้อยเมื่อจะไปยังไม่ลืมที่มาทำให้เมื่อถึงเวลาคนดูยังมีความคิดเล็กๆจุดติดในสมองในสิ่งที่หนังฝังเอาไว้
ส่วนฉากทำลายล้างแม้จะเห็นมาแล้วมากมายเหมือนดูหนังคิงคองบนความเป็นหนังยุค 90 แต่ความที่หนังไม่อืดอาดก็เป็นความบันเทิงได้แบบพอดีตัวตามฟอร์มของตัวเองที่คงไม่คาดหวังให้ออกมาอลังเหมือนหนังฮอลลีวู้ดบล็อคบัสเตอร์ เพราะสารภาพว่าผู้เขียนดูเรื่องนี้พร้อมกับเปิดเครื่องดื่มเย็นๆแกล้มขนมขบเขี้ยวในยามที่กลับจากภารกิจการงานแล้วมาเจอความเพลิดเพลินที่คุ้มค่าเพราะหนังไม่ได้ตั้งใจมาเถิดเทิงอยู่แล้ว จึงเป็นความสนุกที่พอดีและเป็นความบันเทิงพอพอเพียงให้ผ่อนคลายได้
เพราะบ่อยครั้งที่มนุษย์เพิกเฉย ความสำคัญของสิ่งรอบๆตัวบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่มีอยู่ในมือ หรือสิ่งที่มีความสัมพันธ์กับเราก็ตามต้องส่วนมากจะเป็นธรรมชาติหรือทรัพยากรที่เรามีในมือที่พอเรารู้ตัวอีกทีมันก็เริ่มสูญหายไปแล้วเริ่มสูญสลายไปแล้วดังนั้นหนังเรื่องนี้ให้ข้อคิดที่ดีมากๆมากกว่าพาร์ทของการเอาตัวรอดเอาชีวิตรอดจากเฉยๆ CG ในเรื่องต้องขอบอกเลยว่าโคตรดี อย่างกับดูหนังเรื่องคิงคองหรือก็อตซิลล่าในปี 2022
- ภาพรวม
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6/10) - การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10) - การแสดง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10) - บทภาพยนตร์
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8/10)
รับชมตัวอย่างหนัง : Troll (2022)
ติดตามรีวิวหนังเพิ่มเติมได้ที่ : เว็บรีวิวหนังออนไลน์
ติดตามจัดอันดับหนังได้ที่ : 10อันดับหนังANIMATION
รับชมหนังหนังฟรีออนไลน์ได้ที่ : ดูหนังBUBBLE
รีวิวหนังใหม่เพิ่มเติมได้ที่ : ดูรีวิวหนังWORTH