รีวิวหนัง | THE PALE BLUE EYE (2023)

รีวิวหนัง | THE PALE BLUE EYE (2023)

THE PALE BLUE EYE ปลดล็อกปริศนาล่าฆาตกร

  • ประเภท: ดราม่า / อาชญากรรม / ระทึกขวัญ

  • ผู้กำกับ: สก็อตต์ คูเปอร์

  • นำแสดงโดย: คริสเตียน เบล, แฮร์รี เมลลิง, ลูซี่ บอยน์ตัน

  • ความยาว: 128 นาที

เนื้อเรื่องย่อ THE PALE BLUE EYE

The Pale Blue Eye เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 1830 เราจะได้เห็น Christian Bale ในมาดชายเซอร์ไว้หนวดเครา ซึ่งรับบทเป็น Augustus Landor นักสืบที่อยู่ในสถานะกึ่งเกษียณและเป็นพ่อม่ายที่โศกเศร้าเนื่องจากลูกสาวได้หายตัวไป แต่แล้วเขาก็ได้รับหน้าที่ให้สืบคดีสุดแปลกที่โรงเรียนเตรียมทหารสหรัฐในเวสต์พอยต์ ซึ่งได้พบว่ามีนักเรียนนายร้อยถูกฆาตกรรม

โดยสภาพศพคือถูกแขวนคอและถูกผ่าเอาหัวใจออกมาจากร่าง อย่างไรก็ตาม Landor ก็ได้รับความช่วยเหลือในการไขคดีพิลึกพิลั่นนี้จากนักเรียนนายร้อยนายหนึ่งที่ชื่อ Edgar Allan Poe (รับบทโดย Harry Melling) และตัวละครนี้เองก็คือหนึ่งในบทบาทที่ผู้เขียน Louis Bayard นำชื่อของนักเขียนนักกวีชาวอเมริกันที่มีอยู่จริงมาใส่ในเรื่องราว

ซึ่งตัวจริงของ Poe ก็เป็นที่รู้จักกันดีจากงานไขรหัสคดีและเรื่องสยองขวัญ และเขายังได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ริเริ่มเขียนเรื่องแต่งแนวสืบสวนสอบสวนคนแรกอีกด้วย ดังนั้น มันจึงมีความเชื่อมโยงกันกับภาพยนตร์เรื่องนี้ จนบางทีเราอาจจะคิดได้ว่าในคดีที่น่าสยดสยองเกี่ยวกับการผ่าหัวใจในเรื่อง อาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้ Poe ทำงานเขียนในภายหลังก็เป็นได้

หลังจากที่ปมของคดีเริ่มคลี่คลาย ก็เป็นจุดหักมุมที่ผู้ชมบางคนอาจจะคาดคะเนไว้บ้างแล้ว เนื่องจากความลึกลับเหล่านั้นมีตัวละครหรือผู้ต้องสงสัยในจำนวนจำกัด จนในที่สุดเรื่องราวของ The Pale Blue Eye ก็นำเสนอเรื่องราวของการสูญเสียและการแก้ไขปัญหาที่ผิดพลาดอย่างเต็มรูปแบบ การแสดงของ Christian Bale ที่มีลักษณะเฉพาะทั้งการเป็นคนที่มีความละเอียดอ่อนและลึกลับเล็กน้อยจึงไร้ข้อกังขาสำหรับการแสดงของเรื่องนี้

รวมถึงนักแสดงอย่าง Harry Melling ที่ถ่ายทอดนิสัยสุดพิลึกของ Poe ได้อย่างเชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตาม บทสรุปของภาพยนตร์เรื่องนี้เผยให้เห็นว่า เป็นการยกย่องบุคคลจริงในประวัติศาสตร์ผู้ที่ซึ่งจะกลายเป็นผู้สร้างเรื่องราวนักสืบอเมริกันที่อื้อฉาว ในขณะที่เรื่องราวของมันเองก็สร้างความหวาดกลัวไปยังส่วนลึกที่มืดมนในหัวใจของมนุษย์

สิ่งที่หนังต้องการสื่อคือ ปัญหาของกฎระเบียบ ความเชื่อศาสนา ที่พยายามตีกรอบการปฏิบัติตัวของผู้คน จนทำให้กลายเป็นปัญหาสะสมที่กดทับไว้ สุดท้ายก็กลายระเบิดออกมาแล้วก็กลายมาเป็นโศกนาฎกรรมในเรื่อง ตัวเอกนักสืบแลนดอร์คือตัวละครที่ไม่นับถือศาสนา ไม่สนใจพระเจ้า มองการตีกรอบในโรงเรียนนายร้อยเป็นต้นตอของปัญหาทุกอย่าง ซึ่งตัวหนังทำให้เราได้เห็นสิ่งนี้ได้ชัดจนน่าสลดใจมาก

The Pale Blue Eye ยังมีนักแสดงชั้นนำอีกเพียบที่มาสมทบและร่วมถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้ดี ไม่ว่าจะเป็น “ไซม่อน แม็คเบอร์นีย์”, “ทิโมธี สปอลล์” หรือ “โทบี้ โจนส์” พวกเขาถ่ายทอดการแสดงออกมาในหนังเรื่องนี้ได้อย่างคมคายทุกตัวละคร แม้ว่าจะเป็นคาแรกเตอร์ที่มาส่งเสริมเท่านั้น แต่ก็ยังช่วยยกระดับหนังเรื่องนี้ออกมาให้ดูทรงพลัง กับเนื้อหาของหนังที่ค่อย ๆ ปลดล็อกทีละเรื่อย ๆ แบบไม่รีบร้อน

The Pale Blue Eye เป็นหนังสืบสวนตามหาฆาตกรที่ค่อนข้างคมคาย แต่อาจจะไม่ได้ดึงดูดความสนใจได้ดีเท่าที่ควรจะเป็นในหนังสไตล์นี้สักเท่าไหร่ แต่หนังก็เต็มไปด้วยองค์ประกอบและลีลาการเรียบเรียงเรื่องราวที่แสนคมคายดี หากเฝ้าติดตามและเดินไปตามตัวละครเรื่อย ๆ ก็ยังเป็นหนังที่ดูได้สนุกกับปริศนาที่ค่อย ๆ คลายออก และผู้ชมอาจจะจับทางได้ไม่ยากสักเท่าไหร่ เพราะปริศนาเรื่องนี้ไม่ค่อยซับซ้อนเท่าไหร่ แต่เต็มไปด้วยปมหลากหลายของแต่ละตัวละครที่น่าค้นหา

สรุป THE PALE BLUE EYE

Scott Cooper ถือว่าเป็นผู้มีชื่อเสียงในด้านการสร้างภาพยนตร์แนวอาชญากรรมตะวันตก และตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะใช้ความเชี่ยวชาญนั้นกับภาพยนตร์ระทึกขวัญลึกลับที่อิงประวัติศาสตร์ให้ออกมาน่าติดตามและแปลกประหลาด ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากหนังสือขายดีในปี 2003 ของ Louis Bayard นักเขียนผู้โด่งดังจากการนำบุคคลที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์และตัวละครชื่อดังมารื้อสร้างเป็นจินตนาการใหม่ได้อย่างแยบยล

  • ภาพรวม
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10)
  • การเล่าเรื่อง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (ุ6/10)
  • การแสดง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8/10)
  • บทภาพยนตร์
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10)

รับชมตัวอย่างหนัง : THE PALE BLUE EYE (2023)

ติดตามรีวิวหนังเพิ่มเติมได้ที่ : เว็บรีวิวหนังออนไลน์

ติดตามหนังใหม่ได้ที่ : หนังน่าดู2023

รับชมหนังหนังฟรีออนไลน์ได้ที่ : ดูหนังTHE PALE BLUE EYE

รีวิวหนังใหม่เพิ่มเติมได้ที่ : ดูรีวิวหนังTITANIC